ตรวจเช็คสภาพรถยนต์

ก่อนออกเดินทางอย่างมั่นใจไร้กังวล

แน่นอนว่าก่อนการเดินทางด้วยรถยนต์ ไม่ว่าระยะทางที่คุณกำลังจะไปนั้นจะใกล้หรือไกลแค่ไหน สิ่งสำคัญของการเดินทาง คือ ความปลอดภัยและความมั่นใจในสภาพรถยนต์ของคุณ การหมั่นตรวจเช็คสภาพรถยนต์ให้พร้อมก่อนการเดินทาง จึงเป็นสิ่งที่ดีเสมอเพื่อตรวจเช็คความพร้อมและหาข้อบกพร่องต่างๆของรถยนต์ ช่วยลดความเสี่ยงหรือปัญหาในระหว่างการเดินทาง หากมีจุดที่ต้องซ่อมบำรุงจะได้แก้ไขให้ใช้งานได้อย่างปลอดภัยและทันท่วงที สำหรับการตรวจเช็คสภาพรถยนต์นั้นสามารถทำได้ด้วยตัวเองง่ายๆ โดยการเน้นจุดสำคัญต่างๆดังนี้

เช่ารถ

เช็คสภาพรถยนต์ : ระบบไฟ

ส่วนสำคัญในการมองเห็นระหว่างการเดินทาง ควรตรวจเช็คไฟส่องสว่างทุกจุด ทั้งไฟหน้ารถ ไฟสูง-ต่ำ ไฟภายในห้องโดยสาร ไฟท้ายรถ ไฟเบรก ไฟเลี้ยวซ้าย-ขวา ไฟถอยหลัง ไฟฉุกเฉิน ฯลฯ หากพบว่าไฟส่องสว่างจุดไหนผิดปกติควรทำการซ่อมแซมก่อนออกเดินทาง

เช็คสภาพรถยนต์ : ยางรถยนต์

ส่วนสำคัญในการเคลื่อนที่ของรถยนต์ ควรตรวจเช็คสภาพยางพร้อมทั้งเช็คลมยางทั้ง 4 ล้อ รวมถึงยางอะไหล่สำรองให้พร้อมใช้งาน หรือ ทำการเปลี่ยนยางที่หมดสภาพการใช้งานแล้ว เพื่อให้การขับขี่รถยนต์มีประสิทธิภาพมากขึ้น

เช็คสภาพรถยนต์
เช็คสภาพรถยนต์
เช็คสภาพรถยนต์
เช็คสภาพรถยนต์

เช็คสภาพรถยนต์ : ระบบของเหลว

การหมั่นตรวจเช็คสภาพรถยนต์เป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญอย่างสม่ำเสมอ เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ ซึ่งระบบของเหลวภายในเครื่องยนต์ที่สำคัญต่อประสิทธิภาพรถ คือ

  • น้ำมันเครื่อง : หมั่นตรวจเช็คน้ำมันเครื่องว่าอยู่ในระดับ F (FULL) หรือไม่ และต้องไม่ปล่อยให้น้ำมันเครื่องแห้งเด็ดขาด
  • น้ำมันเกียร์อัตโนมัติ : สำหรับรถยนต์เกียร์อัตโนมัติ ควรหมั่นตรวจเช็คก้านวัดระดับเกียร์ให้อยู่ในระดับปกติ หรือ H (HOT)
  • น้ำฉีดกระจก : เพื่อให้การเดินทางสะดวกขึ้น หากระหว่างทางมีฝุ่นหรือคราบเกาะบริเวณกระจกรถขณะขับขี่ ควรตรวจเช็คน้ำในถังว่ามีเพียงพอหรือไม่
  • น้ำมันเบรก : ควรสังเกตระดับน้ำมันเบรกให้อยู่ระหว่างค่า Min และ Max ซึ่งต้องมีไม่มากกว่าค่า Max หรือ น้อยกว่าค่า Min มากเกินไป หากมีความผิดปกติควรตรวจเช็คสภาพรถยนต์กับช่างผู้ชำนาญก่อนออกเดินทาง
  • น้ำมันหล่อเย็นในหม้อน้ำ : ควรตรวจเช็คเมื่อเครื่องยนต์ไม่มีความร้อน หรือ ก่อนสตาร์ทเครื่องยนต์ โดยการสังเกตลักษณะและสีถัง รวมถึงการทำงานของถังน้ำสำรอง ว่าปกติดีหรือไม่ พร้อมกับตรวจเช็คน้ำหล่อเย็นว่าอยู่ในระดับที่เหมาะสม
  • น้ำมันคลัตช์ : ใช้วิธีการตรวจเช็คเดียวกับน้ำมันเบรก คือให้อยู่ระหว่างค่า Min และ Max ซึ่งต้องมีไม่มากกว่าค่า Max หรือ น้อยกว่าค่า Min มากเกินไป หากมีความผิดปกติควรตรวจเช็คสภาพรถยนต์กับช่างผู้ชำนาญก่อนออกเดินทาง

เช็คสภาพรถยนต์ : ระบบเบรก

ตรวจเช็คความสมบูรณ์ของผ้าใบเบรก ต้องมีความหนาของเนื้อผ้าเบรกรวม Backing Plate ไม่น้อยกว่า 7 มม. จานเบรกต้องไม่สั่น ไม่คด และตรวจเช็คระยะเบรกจากแป้นเบรกควรมีความตื้นหรือลึกที่พอดี

เช็คสภาพรถยนต์ : ระบบปรับอากาศ

ส่วนสำคัญที่ทำให้การขับขี่รถยนต์ ในอุณหภูมิประเทศไทยให้สะดวกสบายมากขึ้น เพื่ออาการในห้องโดยสารมีความเย็นที่เหมาะสม ควรตรวจสอบรอยรั่วซึมของระบบแอร์รถยนต์สม่ำเสมอ รวมถึงควรล้างระบบแอร์อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง จะช่วยให้อากาศภายห้องโดยสารดีขึ้น

เช็คสภาพรถยนต์ : แบตเตอรี่

หมั่นสังเกตอาการของรถยนต์และตรวจเช็คอายุการใช้งานอย่างสม่ำเสมอ หากเริ่มมีสตาร์ทยากหรือผิดปกติ ควรเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ให้เร็วที่สุด ซึ่งในปัจจุบันแบตเตอรี่มีทั้งแบบน้ำและแบบกึ่งแห้ง หากรถยนต์ของคุณเป็นแบบน้ำต้องคอยเติมอยู่เสมอไม่ให้ขาด

เช็คสภาพรถยนต์
เช็คสภาพรถยนต์
เช็คสภาพรถยนต์

แค่เพียงตรวจเช็คสภาพรถยนต์ก่อนออกเดินทาง โดยการเช็คตามจุดสำคัญภายในระบบเครื่องยนต์ทั้ง 6 จุดที่เราได้แนะนำไป ไม่ว่าคุณจะเดินทางใกล้หรือไกลแค่ไหน ก็ปลอดภัยในระดับหนึ่งแล้ว แต่อย่าลืมว่า! ส่วนที่สำคัญพอๆกันคือ การมีสติในการขับขี่ และปฏิบัติตามกฏจราจรอย่างเข้มงวด  บทความนี้น่าจะเป็นประโยชน์เเละตอบโจทย์นักขับทั้งหลายที่เดินทางเป็นประจำ และหากการขับขี่รถยนต์ด้วยตัวเองนั้น ทำให้คุณอาจเหนื่อยล้า รู้สึกท่องเที่ยวได้ไม่เต็มที่ ไม่สะดวกสบายมากพอ  เราของแนะนำให้คุณ เช่ารถพร้อมคนขับ เพื่อการเดินทางเที่ยวอย่างสะดวกสบาย ไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องสภาพรถ ความปลอดภัย หรือ กังวลเรื่องเส้นทางการเดินทาง เพราะมีคนขับที่ชำนาญเส้นทาง จึงทำให้ทุกการเดินทางของคุณยอดเยี่ยมมากกว่าขับขี่ด้วยตัวเองแน่นอนค่ะ